* Punctuation Marks นั้น เราคนไทยเรียกว่า "เครื่องหมายวรรคตอน" |
*เวลาเราพูดภาษาอังกฤษ ทั้งคนพูดและคนฟังไม่เห็นเครื่องหมายอะไรสักอย่าง แต่ถ้าเขียนละก็ เครื่องหมาย |
วรรคตอนเข้ามาเป็นพระเอกนางเอกเลยทีเดียว |
+ เอาง่ายๆเห็นๆก่อนก็ได้ คือ ในการเขียนประโยคภาษาอังกฤษทุกประโยค ท้ายประโยคต้องมีเครื่องหมาย |
วรรคตอน (Punctuation Marks) อย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอนในสามอันต่อไปนี้ที่เรารู้จักดี ขาดไม่ได้ ได้แก่ |
-- Full stop (อเมริกันเรียก period) ใช้จบประโยคบอกเล่าธรรมดาปกติ |
-- Exclamation mark ที่เรามักเรียกแบบลูกทุ่งว่า "เครื่องหมายตกใจ" แต่ในหลักภาษาไทย เขาเรียกว่า |
เครื่องหมายอัศเจรีย์ ใช้แสดงอารมณ์หรือความรู้สึก |
-- Question mark เครื่องหมายคำถาม หรือเครื่องหมายปรัศนีย์ ก็ชัดเจนว่าใช้ปิดท้ายประโยคคำถาม |
|
ถ้าลองดูประโยคเดียวกัน เขียนเหมือนกัน ถ้อยคำเหมือนกัน แต่ี่ใช้่เครื่องหมายต่างกันทั้งสามอัน ดังข้างล่าง |
อารมณ์และความรู้สึกจะต่างกันไปด้วย แม้ความหมายจะดูคล้ายๆกันแต่ก็ไม่เหมือนกันเปี๊ยบ ลองดู |
I love you .ให้ความหมายและความรู้สึกปกติ เรียบๆธรรมดาๆ ว่า "ฉันรักเธอ" "ผมรักคุณ" ฯลฯ ทำนองนี้ |
I love you! ให้ความรู้สึกหนักแน่นจริงจังกว่าประโยคแรก หากจะ้แปลก็ได้ทำนองว่า "ฉันรักเธอจริงนะ" |
I love you ? ประโยคสุดท้าย มีเครื่องหมายคำถามปิดท้าย คำถามย่อมไม่ใช่คำตอบ เครื่องหมายนี้ก็บอกชัดแล้ว |
ว่ายังไม่แน่ใจ ยังไม่สิ้นสุดยุติ ยังเป็นปัญหา ฯลฯ จึงให้ความรู้สึกทำนองว่า ฉันรักเธอน่ะเหรอ....เชอะ... |
คงยากส์....ตลกจัง....คงไม่มีทางเป็นไปได้.....(เพราะรู้่อยู่ว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว....เพราะเห็นอยู่ว่าเราต่างกัน |
มากมาย... แล้วฉันจะรักเธอได้ยังไง....???) |
เครื่องหมายวรรคตอนมีมากกว่า 3 อันที่ยกตัวอย่างตามตารางข้างล่างนี้ ( ดูข้างล่างจ้า .... ) |
ค้นหาบล็อกนี้
วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2554
Punctuation Marks (เครื่องหมายในภาษาอังกฤษ)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น